ฟ้า ดิน คน: ฮวงจุ้ยเพื่อชีวิตที่ดี

ฟ้า ดิน คน: ฮวงจุ้ยเพื่อชีวิตที่ดี

เมนู

นานาสาระ กับ ฟ้าดินคน

จากใจผู้จัดทำ

ทุกสรรพสิ่งในจักรวาล ชีวิตทุกคนล้วนอยู่ภายใต้กฎแห่งธรรมชาติ คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย หลีกหนีไม่พ้น หรือเจริญแล้วก็เสื่อม ไม่สามารถปฏิเสธกฎข้อนี้ไปได้ ดังคัมภีร์อี้จิงที่ว่าด้วยไตรลักษณ์ ซึ่งกล่าวถึงวัฏจักรการเกิดขึ้น คงอยู่ และดับไปของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นที่มาของศาสตร์ฮวงจุ้ย

ฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์เก่าแก่ของชาวจีนโบราณ  ว่าด้วยการตั้งถิ่นฐานและความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้นก็ตาม

ศาสตร์ฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์ที่น่าพิศวง น่าสนใจ หลักการของศาสตร์ฮวงจุ้ยครอบคลุมตั้งแต่ระดับเล็กที่สุดไปจนถึงระดับใหญ่ที่สุด มุ่งเน้นที่จะควบคุมการไหลเวียนของพลังชี่ ด้วยการเลือกชัยภูมิ ทิศทาง และการจัดวางอย่างสมดุลเหมาะสม มีสาระสำคัญคือ หยิน-หยาง พลังชี่ เบญจธาตุ ไตรภาคี และดาวจร (Flying Stars) ซึ่งศาสตร์นี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อและศรัทธาของแต่ละคน ที่สำคัญคือการรู้ย่อมดีกว่าการไม่รู้อะไรเลย

ในยุคการแข่งขันปัจจุบัน การดำเนินชีวิต การประกอบธุรกิจต่างๆ ยากขึ้น ซับซ้อนขึ้น มีทั้งความสำเร็จและล้มเหลว ทั้งที่ทราบและไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งมีหลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์ เช่น โชคชะตาซึ่งขึ้นอยู่กับวัน เดือน ปีเกิด แม้เราไม่สามารถเลือกเกิดได้ หรือไม่สามารถเปลี่ยนดวงชะตาได้ แต่เราก็สามารถพิสูจน์ทราบ พยายามหาหนทาง แสวงหาความสำเร็จและสาเหตุความล้มเหลวเหล่านั้นได้โดยการใช้หลายศาสตร์ แต่ศาสตร์หนึ่งที่คนจีนโบราณใช้มาแล้วได้ผลตลอด ก็คือโหราศาสตร์และฮวงจุ้ย ซึ่งนำมาช่วยในการทำนาย การคาดคะเนเวลา การกะจังหวะของเหตุการณ์ต่างๆ โดยทำให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม เหตุการณ์ การแข่งขัน โอกาส พฤติการณ์ ตามสภาพการณ์นั้นๆ เช่น เมื่อมีการพยากรณ์ว่าอากาศจะหนาวมาก เราก็จะจัดเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย เช่นเดียวกันถ้าหากเราไม่ต้องการชีวิตที่ย่ำแย่ เราก็ต้องเอาการทำนายเหตุการณ์ภายหน้าเข้ามาช่วย เป็นต้น

การรู้ศาสตร์ฮวงจุ้ยจะช่วยเป็นที่ปรึกษากว้างขึ้น ทำอะไรรอบคอบขึ้น เพราะเป็นศาสตร์ที่เป็นเหตุเป็นผลที่ทุกคนรู้สึกได้ และผู้ที่มีความรอบรู้ หูตาไว ฉลาดและเปิดกว้าง จะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ให้ได้รับผลกระทบน้อยลงหรือหายไป เพราะดวงชะตาของคนเรามีขึ้นมีลง ช่วงใดที่ดวงดีก็ส่งเสริม ช่วงใดดวงตกก็หลีกเลี่ยงและบรรเทาได้ เพราะเรารู้ล่วงหน้า ขณะเดียวกันการทำบุญก็จะช่วยลดกรรมของเราได้ ส่วนการศึกษาเปิดกว้างทุกด้านก็จะช่วยเพิ่มโอกาส ทำให้ชีวิตดีขึ้นยิ่งกว่า

การศึกษาหลักการฮวงจุ้ยที่ดีนั้น จะต้องไม่จำกัดตนเอง ควรเปิดใจให้กว้างในการศึกษา ค้นหาข้อมูลอย่างกว้างขวาง มีความกระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็น หมั่นฝึกฝนตลอดเวลา และหาวิธีการเรียนการใช้ให้เข้าใจมิใช่จดจำ แล้วนำฮวงจุ้ยมาใช้อย่างถูกต้อง ก็จะนำไปสู่ชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย มั่งคั่ง และปลอดภัย >ดิฉันหวังว่าเว็บไซด์นี้ คงจะเป็นประโยชน์ต่อท่านในการนำหลักฮวงจุ้ยไปปรับใช้กับตัวเอง ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อรับพลังดี หลีกเลี่ยงพลังร้าย ให้มีความรักความสามัคคีกัน มีการงานการเงินเจริญรุ่งเรือง สุขภาพดีมีสุขตลอดไป

กชกร พรมไชย (Kotchakorn Promchai)

จันทรุปราคา (Lunar Eclipse) : ภาพโดย ทนง สุมดาอิ่ม

จันทรุปราคา (Lunar Eclipse) : ภาพโดย ทนง สุมดาอิ่ม

หลักการไหว้พระราหู โดย กชกร พรมไชย

การไหว้พระราหู ควรไหว้อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง (กรณีที่มีเรื่องทำให้รู้สึกติดขัดอะไรในชีวิต ก็สามารถไหว้ได้ทันที) โดยมีหลักปฏิบัติ 4 ข้อ ดังนี้

1.  ของไหว้สีดำ 8 อย่าง โดยแบ่งของไหว้ทุกอย่างเป็น 8 ชิ้น ดังนี้

      1.1  ไก่ดำ (สับเป็น 8 ชิ้น) หรือไข่เยี่ยวม้า (กี่ฟองก็ได้แต่ผ่าให้ได้ 8 ชิ้น)  
      1.2  องุ่นดำ (หนึ่งพวงเด็ดให้เหลือ 8 ลูก)
      1.3  ข้าวเหนียวดำ
      1.4  ขนมเปียกปูนสีดำ
      1.5  กาแฟดำ
      1.6  โค้ก หรือ เป๊ปซี่
      1.7  เฉาก๋วย หรือ งาดำ
      1.8  เหล้าเชี่ยงชุน

2.  เทียนดำ 1 คู่ (ตั้งไว้กลางโต๊ะที่จะบูชา), ธูปดำ 12 ดอกต่อคน     การไหว้จะต้องไหว้ในวันพุธกลางคืน (คือหลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว) ขณะไหว้ห้ามมองดวงจันทร์

3.  การตั้งโต๊ะบูชา  ให้ตั้งโต๊ะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก (หลักสากลที่ประเทศญี่ปุ่นก็ปฏิบัติเช่นนี้) หรือจะตั้งตามทิศทางของพระราหูก็ได้ และต้องตั้งโต๊ะบูชานอกชายคาบ้าน (ให้เห็นท้องฟ้า)

4.  พิธีการไหว้ (หลังจากตั้งของเสร็จ)

      4.1  จุดเทียน
      4.2  เจ้าบ้านหรือผู้ที่เป็นหลักในการทำพิธีจุดธูป 12 ดอก ตั้งจิตสงบขอพรแล้วปักลงไปบนของที่ใช้ไหว้หรือขอบจานก็ได้ให้ครบ ทั้งนี้อาหารหรือของไหว้บางอย่างอาจมีธูปมากกว่าหนึ่งดอกก็ได้
      4.3  ผู้ร่วมพิธีท่านอื่น เมื่อไหว้ขอพรเสร็จให้ปักธูปลงที่พื้นดิน แล้วจำบริเวณที่ตนเองปักธูปไว้ด้วย เพราะจะต้องมาดูธูปของตนว่าไหม้หมดหรือไม่
     4.4  สำรวจดูธูปของตนว่า ถ้าไหม้หมดแปลว่าคำขอจะสัมฤิทธิ์ผล, ถ้าไหม้ไม่หมดแปลว่าคำขอจะไม่เป็นจริง (มีวิธีแก้โดยไปเฝ้าดูบ่อยๆ ถ้าเห็นว่าธูปดับก็จุดติดใหม่ก็ได้)

คาถาบูชาพระราหู

ท่องนะโม 3 จบ แล้วตามด้วย

วา โท โน อะ มะ มะ วา วา  (12 จบ)

(Wa Tho No Aa Ma Ma Wa Wa)

จากนั้นบอกชื่อ (ว่าเป็นใคร อยู่ที่ใด ทำอะไร..) ขอถวายของแด่พระราหู ท่านอยู่แล้วหรือยัง สังขารตัง โลกะวิทู... เอออยู่ เมื่อท่านอยู่แล้วลูกขอเชิญมารับเครื่องสังเวยเหล่านี้ เพื่อความสุขความเจริญทั้งหลาย การใดที่พวกข้าพเจ้า (ลูก) ได้กระทำไป ทั้งที่รู้หรือไม่รู้ทั้งหลาย เมื่อใดก็ตาม ข้าพเจ้าขออภัยและขออโหสิกรรมด้วย ข้าพเจ้าขอขอบคุณพระราหูที่ให้มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ด้วยดี 

ข้าพเจ้าขอพระราหูจงดลบันดาลให้...(ขอได้หลายอย่าง)...ขอให้ทุกอย่างเรียบร้อยด้วยดีทุกประการนะครับ (นะเจ้าคะ)...เออได้สิ...  ขอบคุณครับ (ค่ะ)

แล้วปักธูป (ควันธูปจะสื่อถึงฟ้าแทนจิตของเรา) เมื่อธูปไหม้หมดแล้วให้ลาของ และทุกคนจะต้องทานของไหว้ให้ครบทุกอย่าง ถ้าทานไม่หมดจะต้องนำไปแจกจ่ายให้หมดภายในคืนที่ทำพิธีเท่านั้น รวมทั้งภาชนะที่ใช้ใส่ของไหว้ด้วย

หมายเหตุ:  ถ้าหากปีถัดไปไม่มีเวลาไหว้ ก็ให้ไปปล่อยปลาไหล 12 ตัว แทนการไหว้พระราหู

~~~~~~~~ เสร็จสิ้นพิธีการไหว้พระราหู ~~~~~~~~

ตำนาน 12 นักษัตร : ภาพโดย ตั้ม วิศุทธิ์ พรนิมิตร

ตำนาน 12 นักษัตร : ภาพโดย ตั้ม วิศุทธิ์ พรนิมิตร

ตำนาน 12 นักษัตร

มีตำนานเล่าว่า ครั้งหนึ่งเทพเจ้าบนสรวงสวรรค์ ต้องการเลือกสัตว์ 12 ชนิด มาเป็นตัวแทนชื่อเรียก 12 นักษัตรในปฏิทิน จึงได้ประกาศให้สัตว์ทั้งหลายมาวิ่งแข่งขันกัน เพื่อคัดเลือกตามลำดับ 12 ชนิด

ก่อนเวลาแข่งขันมีสัตว์ต่างๆ มาร่วมแข่งขันมากมาย และหนูกับแมวก็มาร่วมกับเขาด้วย โดยหนูเป็นสัตว์ที่ว่องไว เตรียมพร้อม และระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ส่วนแมวมีนิสัยชอบนอนเมื่อกินอิ่มแล้ว ก่อนนอนแมวได้สั่งหนูว่า เมื่อถึงเวลาแข่งขันก็ให้ปลุกด้วย

เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น มีวัวตัวหนึ่งวิ่งมาอย่างรวดเร็ว หนูเห็นดังนั้นก็รีบกระโดดขึ้นไปเกาะอยู่บนเขาวัวขณะวิ่งข้ามแม่นำ้ โดยลืมปลุกแมวให้ลุกขึ้นมาแข่งด้วย เมื่อวัววิ่งใกล้ถึงเส้นชัย หนูก็ชิงกระโดดข้ามหัววัวเข้าเส้นชัยไปก่อนเป็นตัวแรก ตามมาด้วยวัว เสือ กระต่าย งูใหญ่ งูเล็ก ม้า แพะ ลิง ไก่ สุนัข และหมูตามลำดับ เมื่อแมวตื่นขึ้นมาการแข่งขันก็สิ้นสุดลงแล้ว แมวโกรธหนูมาก เลยวิ่งไล่กัดหนูมาจนทุกวันนี้

เมื่อจบการแข่งขัน เทพเจ้าจึงประกาศชื่อสัตว์ต่างๆ ให้เป็นตัวแทนปีเกิดของบุคคล 12 ประเภท ดังนี้ เริ่มต้นด้วยปีชวด ต่อด้วยปีฉลู ขาล เถาะ มะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม วอก ระกา จอ และจบด้วยปีกุน ตามลำดับ ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของบุคคล 12 ปีนักษัตร 

พลังชี่ และ พลังหยินหยาง

พลังชี่ คือ พลังงานของลม อากาศ (ออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจน ฯลฯ) แสงอาทิตย์ แสงจันทร์ และแสงดาวต่างๆ ที่มีผลต่อชีวิต ร่างกาย และจิตวิญญาณของมนุษย์ที่ติดตัวมาแต่เกิด พลังชี่ของคนต้องสอดประสานกลมกลืนกับพลังชี่ของดินและฟ้า  ดังนั้น การเคลื่อนไหวของพลังชี่ที่สะดวกไม่ติดขัด จึงกลายเป็นสูตรสำเร็จในการตั้งถิ่นฐาน กำหนดลักษณะสถาปัตยกรรมการใช้สอยภายในอาคาร การออกแบบภูมิสถาปัตย์และสภาพแวดล้อม รวมถึงการควบคุมการใช้พลังงานอย่างประหยัด โดยอาศัยแสงอาทิตย์   อุณหภูมิ ความชื้น  แหล่งน้ำ และพลังงานลม เป็นปัจจัยในการเลือกชัยภูมิเพื่อสร้างที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน ให้เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ รวมไปถึงความเชื่อศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพิธีกรรมในเรื่องจิตวิญญาณที่สัมผัสจับต้องไม่ได้ หรือชั่งตวงวัดไม่ได้ด้วย
สัญลักษณ์หยิน-หยาง (Yin and Yang) : ภาพโดย ทนง สุมดาอิ่ม

สัญลักษณ์หยิน-หยาง (Yin and Yang) : ภาพโดย ทนง สุมดาอิ่ม

พลังหยินหยาง คือ พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของสิ่งตรงข้ามกันที่เกิดขึ้นเป็นวัฏจักรนำไปสู่ความสมดุล เช่น หยิน คือ แผ่นดิน กลางคืน ผู้หญิง หยาง คือ ท้องฟ้า กลางวัน ผู้ชาย เป็นต้น มีอิทธิพลทั้งด้านที่เป็นประโยชน์ และด้านที่เป็นภัยร้ายแรง ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกนี้  ดังนั้น การจัดบ้านและที่ทำงานให้สมดุลนั้น ต้องไม่มืดหรือสว่างเกินไป โปร่งโล่งมีลมไหลผ่าน สะอาด มีแสงส่องถึง ถือเป็นพลังชี่หยางอันยอดเยี่ยม หากมีของตกแต่งมากเกินไป จนทำให้ทางเดินของลมและแสงอุดตัน เกิดสภาพนิ่งเป็นหยิน ย่อมส่งผลให้สุขภาพแย่ คิดการงานไม่ออก ฉะนั้นการงาน ภาวะอารมณ์ และสุขภาพ ก็จะพลอยย่ำแย่ตามไปด้วย 

Thanong Soomda-im
การตั้งค่าคุกกี้
X
ไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ในการท่องเว็บที่ดียิ่งขึ้น
คุณสามารถยอมรับคุกกี้ทั้งหมดหรือเลือกประเภทของคุกกี้ที่คุณยินดีอนุญาต
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
เลือกคุกกี้ที่คุณต้องการอนุญาตในขณะที่คุณเรียกดูเว็บไซต์นี้ โปรดทราบว่าคุกกี้บางตัวไม่สามารถปิดได้ เนื่องจากหากไม่มีคุกกี้ เว็บไซต์จะไม่ทำงาน
ความสำคัญ
เพื่อป้องกันสแปม ไซต์นี้ใช้ Google Recaptcha ในแบบฟอร์มการติดต่อ

ไซต์นี้อาจใช้คุกกี้สำหรับอีคอมเมิร์ซและระบบการชำระเงินซึ่งจำเป็นสำหรับเว็บไซต์เพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง
บริการของ Google
ไซต์นี้ใช้คุกกี้จาก Google เพื่อเข้าถึงข้อมูล เช่น หน้าที่คุณเยี่ยมชมและที่อยู่ IP ของคุณ บริการของ Google บนเว็บไซต์นี้อาจรวมถึง:

- Google Maps
- Google Font
ข้อมูล
ไซต์นี้อาจใช้คุกกี้เพื่อบันทึกพฤติกรรมของผู้เข้าชม ติดตามการแปลงโฆษณา และสร้างผู้ชม รวมถึงจาก:

- Google Analytics
- เครื่องมือวัด Conversion ของ Google Ads
- Facebook (Meta Pixel)